Highlight Sala-Tanum
Highlight About Us Sala-Tamun About Us
About Us

highlight
Our Products
Highlights
FAQs
Contact
Tips
About Us


บทสัมภาษณ์: ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา "ตอบโจทย์" สังคมไทยหลังวิกฤติ (5/8)

activity at Bangkok Noi

GM: ตกลงจากความร้าวลึกที่เกิดขึ้น จะไม่มีชนชั้นกลางได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้บ้างหรือ
ภิญโญ : ผมว่ามีนะ คือนักวิชาการไทยที่ออกซ้ายนิด ๆ ก็จะมีจริตว่าความผิดทุกอย่างตกที่คนชั้นกลางหมด เราควรจะตั้งคำถามกลับไปที่นักวิชาการเหมือนกันว่า ตกลงความวิบัติทั้งหลายในบ้านเมืองมันเกิดจากคนชั้นกลางอย่างเดียวกระนั้นหรือ บางทีผมคิดว่ามันเป็นบทสรุปที่ง่ายไป ที่จะโยนความผิดทุกอย่างให้กับคนชั้นกลาง แล้วมันก็เป็นสูตรสำเร็จทางวิชาการที่ง่ายดี เวลาพูดแล้วก็ฟังดูดี

แต่ที่ผ่านมาเราไม่เคยตั้งคำถามกลับไปว่า ตกลงคนชั้นกลางเป็นจำเลยในทุกเรื่องของสังคมไทยนี้ หรือว่ามันมีส่วนอื่น ๆ มีชนชั้นอื่นที่จำเป็นต้องเข้ามาช่วยแบกรับบ้าง ทีนี้การด่าคนชั้นล่างมันดูไม่ดีไง เพราะคุณไปด่าผู้เสียโอกาสทางสังคม หรือว่าคุณจะไปด่าคนชั้นสูงก็ใช่จะเป็นเรื่องวิจารณ์ได้ง่าย ๆ ในสังคมไทย ในที่สุด วิจารณ์คนชั้นกลางมันง่ายที่สุด เพราะเขาไม่ได้สนใจคุณ ด่าเท่าไหร่ก็ไม่ตอบโต้ เพราะไม่ว่าง เดินช้อปปิ้งอยู่ (หัวเราะ) ที่คุณเขียนเขาก็ไม่อ่านเพราะติดละครหลังข่าว ซึ่งมันกว่าเยอะ เพราะฉะนั้นอะไรที่อธิบายไม่ได้ก็ไปด่าคนชั้นกลางไว้ อันนี้ก็ถามนักวิชาการกลับไปด้วยว่าจริงหรือเปล่า

GM: ที่จริงคนชั้นกลางในเมืองก็ไม่ได้เป็นอย่างจินตนาการเสมอไปเพราะยังมีคนชั้นกลางหรือคนเมืองที่หาเช้ากินค่ำอยู่ไม่น้อย
ภิญโญ : ที่จริงผมว่าคนส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ เป็นลูกจ้างกินเงินเดือน เงินเดือนอาจจะไม่สูง แล้วก็ต้องเผชิญความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เหนื่อยอยู่ทุกวัน ผมคิดว่าคนที่ตื่นเช้าขึ้นมาวันจันทร์แล้วเหนื่อยมากจนไม่อยากไปทำงานที่เป็นคนชั้นกลางนี่เยอะมากนะ แล้วก็ไม่ได้ชื่นชอบงานที่ตัวเองทำอยู่ กลับมาบ้านก็หมดแรง ต้องต่อสู้ทางเศรษฐกิจสูงมาก

ถามว่าคนแบบนี้จะให้เขามามีอารมณ์ทางการเมือง หรือจะให้เขาสนใจการเมืองในอดีตที่ผ่านมาก็ยาก เพราะชีวิตก็ต้องต่อสู้ เรานึกว่าคนชั้นกลางมันสบายกันหมดแล้ว แต่การเป็นลูกจ้างในองค์กรขนาดใหญ่ หรือเป็นลูกจ้างอยู่ในกรุงเทพฯ ชีวิตไม่ได้สบายเลย เผลอ ๆ จะเหนื่อยกว่าคนในชนบทอีก ตื่นเช้าโหนรถเมล์มาทำงานตั้งแต่กี่โมง รถกรุงเทพ ฯ ก็ติดวินาศสันตะโร กว่าจะกลับบ้านอีก ความกดดันในองค์กร ยอดขายก็ต้องสูงขึ้นทุกปี ในที่สุดก็ต้องมาโบยตีคนเหล่านี้แหละ

แต่เราไม่ค่อยเห็นความทุกข์นี้ เรานึกว่าอยู่ในห้องแอร์แล้วมันสบายไง ความทุกข์ในใจมันประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้ ผมเคยเจอเซลส์แมนคนอีสานที่เคยเดินเร่ขายสินค้าอุปโภคบริโภคแล้วเหนื่อยมากทนไม่ไหว ในที่สุดก็ลาออกไปทำเกษตรอยู่บ้าน เขาบอกว่ารายได้น้อยแต่สบายกว่าเยอะ ชนชั้นกลงชั้นกลางไม่อยากเป็นแล้ว

GM: พูดถึงชนชั้นกลางไปแล้ว มาคุยกันเรื่องชาวเสื้อแดงกันบ้าง มีคนบอกว่า ชาวเสื้อแดงไม่ได้มีกลุ่มเดียว สำหรับคุณแล้วมีกลุ่มไหนบ้าง
ภิญโญ : มันเยอะมาก ยิ่งกว่าขนมชั้นอีก เราอย่างแรงที่สุด พวกที่ไม่เอาสถาบันก็มี แต่ผมไม่แน่ใจว่าพวกที่ไม่เอาสถาบันนี่ เราจะใช้คำว่าล้มเจ้าได้ไหม เขาอาจจะตะขิดตะขวงใจกับบทบาทของสถาบัน แต่ถึงขนาดที่เขาคิดจะล้มสถาบันเลยมั้ย บางคนอาจจะไม่ได้คิดขนาดนั้น แต่คนพวกนี้มีอยู่จริง ต้องยอมรับ แต่จะไปเหมาว่า คนทั้งหมดนี้เป็นพวกล้มเจ้าทั้งหมดก็ดูจะง่ายไป

นอกจากนี้ก็อาจจะมีกลุ่มนำทางการเมืองที่อยากจะปฏิรูปสังคม พวกนี้น่าจะมีอยู่จริง แล้วก็คิดว่าน่าจะใช้พลังมวลชนที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นคราวนี้ในการเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น พวกนี้เป็นแกนนำทางความคิด อาจมีจิตใจดี แต่ก็ต้องไปอิงกับนักการเมืองอาชีพ ซึ่งอาจจะเป็นเครือข่ายของคุณทักษิณ พวกนี้มีประโยชน์ทางการเมือง ต้องการต่อสู้และเอาชนะทางการเมือง เพื่อตัวเองจะได้กลับมามีอำนาจรัฐ พวกนี้ก็มีอยู่จริงเหมือนกัน

ทุกกลุ่มในที่สุดก็ต้องเชื่อมโยงกับกลุ่มชาวบ้านที่มาชุมนุม ซึ่งเป็นผู้เสียโอกาสและรู้สึกว่าถูกย่ำยี เพราะฉะนั้นคุณพูดอะไรบนเวทีมันก็ถูกไปหมด เพราะว่าเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเรื่องสองมาตรฐาน เรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางด้านการกระจายรายได้ จริงหมดฟังกี่ทีก็จริง แล้วรัฐบาลก็ไม่เคยตอบคำถามเหล่านี้ได้เลย เพราะมันเป็นเรื่องจริงของสังคมไทย ต่อให้กลับข้างเอาพวกเสื้อแดงมาเป็นรัฐบาล คุณก็ทำอย่างเดียวกัน ความจริงนี้ไม่ได้หายไปตราบใดที่คุณไม่ได้แก้ปัญหา พวกนี้ก็เป็นพวกที่มีอยู่จริง

แล้วก็ยังมีพวกนักวิชาการ นักวิชาการก็จะเป็นพวกที่เห็นปรากฏการณ์พวกนี้ทั้งหมด นักวิชาการที่มีใจเป็นธรรมจะรู้สึกว่าสังคมยุติธรรม มีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงทางด้านรายได้ ด้านอำนาจ และการบังคับบัญชาใช้กฎหมาย พวกนี้ก็พยายามจะชี้ให้สังคมเห็นความมีอยู่จริงเหล่านี้ พอชี้ไปมาก ๆ ก็เลยกลายเป็นว่าถูกเหมารวมว่าเป็นเสื้อแดง แต่โดยมาตรฐานของนักวิชาการที่ดี คุณจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อคนด้อยโอกาสอยู่แล้ว ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่านักวิชาการเหล่านี้ได้ประโยชน์อะไร

ในขณะที่นักวิชาการที่ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ ต่างได้ดิบได้ดี เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหญ่ ๆ ไปก็หลายคน นักวิชาการเหล่านี้ชอบวิพากษ์วิจารณ์สังคมและคนอื่น แต่ก็ลืมไปที่จะย้อนกลับมามองบทบาทของตนเอง ว่าปัญหาสังคมที่มีปัญหาสองมาตรฐานบางส่วนก็มาจากการนำวิชาการและสถาบันการศึกษาไปใช้เป็นเครื่องมือในการไต่เต้าส่วนตัวหรือเปล่า

GM: ชาวเสื้อแดงมักบอกว่าก้าวข้ามคุณทักษิณไปหมดแล้ว และต้องการปฏิรูปสังคม จริงๆ คุณว่าชาวเสื้อแดงก้าวข้ามคุณทักษิณกันไปหมดแล้วจริงไหม
ภิญโญ : ถ้าคุณลืมตาตื่นขึ้นมามองความจริงนี่ ว่ากันอย่างไม่เกรงใจ คุณทักษิณมีบทบาทมาก ทุกคนที่อยู่ในวงการข่าวหรือวงการเมืองต้องรู้ว่ายังไม่ได้ก้าวพ้นคุณทักษิณหรอก คุณทักษิณมีบทบาทมากในการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งล่าสุด ส่วนหลักฐานเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องไปหาเอามาแสดงทั้งในทางการเงิน ในทางการติดต่อสื่อสาร ถ้าแสดงได้ ความจริงข้อนี้ก็จะชัดเจนขึ้น

แต่ถามว่าก้าวพ้นทักษิณมั้ย ผมว่าไม่ได้ก้าวพ้นทักษิณ มีความพยายามในการก้าวพ้นทักษิณมั้ย น่าจะมี แต่ก้าวพ้นหรือยัง ผมคิดว่ายัง แล้วการต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้จะยังจบไม่ได้ ถ้ายังไม่สามารถหาวิธีการใดวิธีการหนึ่งในการเจรจา หรือในการตกลงกับคุณทักษิณ ถ้าคนที่มีอำนาจสูงสุดในการต่อสู้กันยังไม่ได้มาคุยกัน มันก็ยากที่เกมนี้จะจบเพราะมันเป็นเกมแห่งอำนาจด้วย มันไม่ใช่การเคลื่อนไหวภาคประชาชนอย่างเดียว การต่อสู้ทางการเมืองไม่เคยมีมิติเดียว เพราะฉะนั้นการคิดว่ามีมิติการต่อสู้ประชาชนอย่างเดียวก็ตื้นไป การอธิบายว่าเป็นการต่อสู้เพื่อคุณทักษิณอย่างเดียวก็ตื้นไป ต้องอธิบายให้เห็นภาพทุกด้าน ถึงจะเห็นปรากฏการณ์ทั้งหมด แล้วถึงรู้ว่าจะจบปัญหาอย่างไร แต่ตราบใดที่เรายังไม่ยอมรับความจริงมันก็ยากที่จะจบ

GM: เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่ามีใครบางคนหรืออะไรบางอย่างที่ "ใช้Ž กันและกันอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเราอาจจะเรียกว่าเป็น "ไอ้โม่งŽ ก็ได้ จากการที่คุณได้สัมภาษณ์คนมามาก พอมองเห็นไหมว่าไอ้โม่งคือใคร
ภิญโญ : คือไอ้โม่งที่เราพยายามจะจับมัน เป็นไอ้โม่งในทางรูปธรรม คือใส่ชุดดำแล้วเที่ยวถือปืนไล่ยิงคน ไม่รู้มาจากฝ่ายไหน รัฐบาลมีหน้าที่ต้องไปจับไอ้โม่งคนนี้มาให้ได้ เราพยายามจะตามหาแต่ไอ้โม่งตัวเป็นๆ แต่เราไม่เคยตั้งคำถามว่า มีไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายตามที่ตั้งคำถามมาหรือเปล่า ซึ่งผมคิดว่ามีจริง ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สลับซับซ้อนขนาดนี้ ไม่ได้มีแต่คนที่อยู่หน้าฉากอย่างเดียว มีไอ้โม่งที่อยู่หลังฉากแล้วไม่ได้มีไอ้โม่งคนเดียวในฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่าย นปช. มันมีไอ้โม่งทั้งสองฝ่าย ไอ้โม่งคือคนที่เรามองไม่เห็น แล้วเราก็ไม่รู้ว่าไอ้โม่งจะเอาอย่างไร

หลายครั้งที่การเจรจาจบไม่ได้เพราะไอ้โม่งไม่ยอม ไอ้โม่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมก็จบไม่ได้ เพราะฉะนั้นตราบใดที่เรายังไม่รู้ว่าไอ้โม่งในสังคมไทยคืออะไร มันก็ยากที่จะทำให้ปัญหาหรือการเจรจาได้ข้อยุติ เพราะว่าในที่สุดการเล่นลิเกหน้าฉากก็เล่นไป แต่หลังฉากไอ้โม่งไม่ยอม


01 | 02 | 03 | 04 | 05 | 06 | 07 | 08


อ่านทั้งหมดในหน้าเดียว


pinyo

ขอเชิญชม ศาลา และสัมผัสกับของจริงๆ ได้ที่ โชว์รูมของเรา กรุณาโทรศัพท์เข้ามาก่อน เพื่อทำการนัดหมายก่อนนะคะ ที่ 02-412-4225, 418-3917 หรือ 418-3860



Our Products | Highlights | FAQs | Contact Us | Tips For Your Sala | About Us

HOME



Sala-Tanum